“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 2 ปี 2560” กรมประชาฯ ปูพรมจัดตั้งศูนย์ ปชส. ทั่วประเทศ สร้างกระแสเฟ้นหาครูดี

      เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.จักรพรรดิ วะทา กรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวถึงการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีครั้งที่ 2 ปี 2560 ซึ่งเป็นการคัดเลือกครูที่มีคุณสมบัติสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตลูกศิษย์ และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา ประเทศละ 1 คน ในอาเซียนและติมอร์-เลสเต รวม 11 ประเทศ โดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กรมประชาสัมพันธ์ และสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ซึ่งครูผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีในปี 2558 พบว่า มีความตั้งใจที่จะใช้กระบวนการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และครูเครือข่ายรางวัลฯ เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย โดยมีสสค.ซึ่งเป็นหน่วยงานสร้างการเรียนรู้ช่วยขยายผลครูต้นแบบเป็นตัวอย่างไปยังเพื่อนครูอื่นๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ “ทุกท่านสามารถเสนอชื่อไปยังคณะกรรมการคัดเลือกในจังหวัดที่มีเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 เป็นจุดอำนวยการ โดยผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อประกอบด้วย 1) ศิษย์เก่าอายุ 25 ปีขึ้นไป และ 2) สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์กรที่มีภารกิจการเรียนรู้ โดยมีระยะเวลาในการเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับคัดเลือก โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดเป็นกลไก (ก.ค.-ธ.ค.59) และการคัดเลือกในส่วนกลาง (ม.ค.-มี.ค.60) ตามลำดับ ทั้งนี้คณะกรรมการมูลนิธิฯ พิจารณาประกาศผลในวันที่ 25 เม.ย.60 และจะมีพิธีพระราชทานรางวัลในวันที่ 10 ต.ค. 60 โดยในครั้งนี้ผู้ที่เคยได้รับรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์นั้น มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อได้อีกเพียง 1 ครั้ง ตามประกาศของมูลนิธิฯ ข้อมูลเพิ่มเติม www.PMCA.or.th

ในการนี้ ดร.จรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ในฐานะกรรมการประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิและผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์ รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลอันทรงคุณค่า เป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทำให้ประเทศไทยและอาเซียนหันมาให้ความสำคัญในคุณภาพการศึกษา การสื่อสารจึงมิใช่เพียงการแจ้งทราบถึงคุณสมบัติ หรือแนวทางการคัดเลือกเท่านั้น แต่กรมประชาสัมพันธ์ต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังโดยทำงานร่วมกับคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด โดยมอบนโยบายให้มีการจัดตั้งศูนย์สื่อสารประชาสัมพันธ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะในทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อสื่อสารความก้าวหน้าของโครงการนี้ เพราะถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ เชื่อมโยงสู่การพัฒนาคุณภาพคนซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ “ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนเป็นศิษย์มีครู ในฐานะนักสื่อสารต้องพูดซ้ำ พูดย้ำและขยายผลโดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์หมายถึง ประจักษ์ในใจลูกศิษย์ ในใจเพื่อนครูและชุมชน อุทิศตัวเพื่อลูกศิษย์ให้เป็นวัตรเป็นประจำสม่ำเสมอ ซึ่งการให้เกียรติครูมีมานานแล้ว แต่วันนี้เราใช้คำว่า “ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” สะท้อนให้เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ดูแลประชาชนทุกเรื่อง รวมทั้งระบบการศึกษา โดยการคัดเลือกครั้งที่ 2 นี้ สามารถเลือกใช้เครือข่ายครูที่ได้รับรางวัลในปี 2558 จำนวน 164 คน ซึ่งมีอยู่ในทุกจังหวัดเป็นวัตถุดิบในการสื่อสารสร้างกระแส เพื่อเฟ้นหาครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง และครูผู้มีคุณูปการ ฉะนั้นการประชาสัมพันธ์ต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องแปลกแตกต่างจากเดิม และสามารถลงมือทำได้ทันที ไม่ว่าท่านจะเป็นคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด เป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา เป็นนักประชาสัมพันธ์ หรือสื่อมวลชน ต้องทำหน้าที่ในการสื่อสาร เพราะการสื่อสารถือเป็นหน้าที่ของทุกคน โดยหลังจากการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจใน 4 ภูมิภาคแล้ว กรมประชาสัมพันธ์และมูลนิธิฯ จะมีการจัดแถลงข่าวร่วมกันในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ต่อไป”

Comments are closed.