ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 ยะลา เปลี่ยนโรงเรียนเป็นโรงงาน ระดมครูและนักเรียนทำหน้ากากอนามัยและเฟสชิลป้องกันโควิด-19

ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 ยะลา เปลี่ยนโรงเรียนเป็นโรงงาน ระดมครูและนักเรียนทำหน้ากากอนามัยและเฟสชิลป้องกันโควิด-19

ครูสุเทพ เท่งประกิจ ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี พ.ศ.2562 ครูนักพัฒนาผู้มีความมุ่งมั่นและเสียสละจากโรงเรียนบ้านคลองน้ำใส จังหวัดยะลา ท่ามกลางความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม ครูสุเทพ ได้ใช้ภาษามลายูสร้างความสัมพันธ์ไทยมุสลิมและเข้าถึงคนในชุมชน อีกทั้งจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่และศูนย์ช่างเศรษฐกิจพอเพียง จนมีลูกศิษย์ประสบความสำเร็จจำนวนมาก
ล่าสุด ครูสุเทพ เท่งประกิจ ได้เปลี่ยนโรงเรียนเป็นโรงงาน ระดมครูและนักเรียนจัดทำหน้ากากอนามัยและเฟสชิวสำหรับป้องกันโควิด-19 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเรียน

 

 

แนวทางการเปิดภาคเรียนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระยะที่ 2 วันที่ 2 มิ.ย 2563

แนวทางการเปิดภาคเรียนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระยะที่ 2 วันที่ 2 มิ.ย 2563


กระทรวงศึกษาธิการและกีฬา กรมสามัญศึกษา นครหลวงเวียงจันทร์  กำหนดแนวปฏิบัติช่วงโควิด-19 ดังนี้

การปฎิบัติ หลักสูตร ช้้นประถมศึกษาปีที่ 1-4  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ภายหลังเปิดโรงเรียนคืนใหม่ ปีการศึกษา 2563-2564 รายละเอียดโดยย่อดังนี้

  1. การเปิดโรงเรียนคืนใหม่ สำหรับ ชั้น ช้้นประถมศึกษาปีที่ 1-4  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 – 6 นั้น ให้ต่อเนื่องการเรียนการสอน เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2563
  2. มาตรการสำหรับการเปิดโรงเรียน
    2.1 ให้ปฎิบัติ ตามประกาศของ สำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับเลขที่ 580/หนย ลงวันที่ 15 พ.ค. 2563 เกี่ยวกับการดำเนินงาน ปฎิบัติ ตามมาตรการผ่อนผัน  และมาตรการป้องกัน ควบคุม สกัดกั้น และแก้ไข การระบาดของเชื้อโรค Covid-19 ในระยะตั้งแต่ 18 พ.ค. 2563 ถึง 1 มิ.ย 2563
    2.2  ให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของคณะเฉพาะกิจ ป้องปัน ควบคุมและแก้ไข การระบาดของเชื้อโรค  Covid-19 กระทรวงศึกษาธิการ และกีฬา ฉบับเลขที่  466/สก ลงวันที่ 17 พ.ค. 2563
    2.3 ให้ปฎิบัติตามประกาศ ระเบียบ มาตรการ ของคณะเฉพาะกิจ อย่างเข้มงวด
  3. การเว้นระยะห่าง
    3.1  สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก มีจำนวนนักเรียนน้อย ให้จัดการเรียนการสอนปกติ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยรับประกันที่นั่งของนักเรียน  ให้มีระยะห่าง 1 เมตร ขึ้นไป ถ้าห้องเรียนใด มีจำนวนนักเรียน กว่า 30 คนขึ้นไป ให้แยกออกเป็น 2 หรือ หลายห้อง และจัดสอนอย่างเหมาะสม
    3.2 สำหรับ โรงเรียนขนาดกลาง ที่มีจำนวนนักเรียนมากให้แต่ละชั้นเรียนผลัดเปลี่ยน วันเรียน เพื่อรับประกันที่นั่งเรียนของนักเรียน ให้มีระยะห่าง 1 เมตร ขึ้นไป ถ้าห้องเรียนใด มีจำนวนนักเรียน กว่า 30 คนขึ้นไป ให้แยกออกเป็น 2 หรือ หลายห้อง และจัดสอนอย่างเหมาะสม รายละเอียดดังนี้
  • ประถมศึกษาปีที่ 1,4  มัธยมศึกษาปีที่ 1,3, 5  เข้าเรียน  ในวัน จันทร์  พุธ  ศุกร์
  • ประถมศึกษาปีที่ 2-3 มัธยมศึกษาปีที่ 2,6 เข้าเรียน  ในวันอังคาร  พฤหัส  เสาร์
  • ประถมศึกษาปีที่ 5 มัธยมศึกษาปีที่ 4,7  เข้าเรียน    วันจันทร์ถึงวันศุกร์

    3.3 จัดเวลามาโรงเรียน  เลิกเล่น และเลิกเรียนของแต่ละชั้นเรียนให้แตกต่าง และห่างกัน 15 นาที

4. ระยะเวลาปฎิบัติหลักสูตร การปฎิบัติหลักสูตร
ชั้นประถมศึกษา ขั้น ป.1-ป.4 และชั้นมัธยมศึกษา ขั้น ม.1-ม.3  ม.5-ม.6 ได้กำหนดระยะเวลาเดียวกันดังนี้

– วันที่ 2 มิ.ย 2563  เริ่มดำเนินการเรียน-การสอน  ถึงวันที่ 10 ก.ค 2563

– วันที่ 13-17 ก.ค. 2563 บทวนบทเรียน และจัดสอบภาคเรียนที่ 2

– วันที่ 3 -7 สิงหาคม 2563 จัดสอบย้อนหลัง เฉพาะ วิชาที่นักเรียน มีคะแนนเฉลี่ยประจำปีลด ตามที่คาดหมาย ( ลด 5 )

– ท้ายเดือน สิงหาคม 2563 จะสรูปปีการศึกษา

 

ลงนาม นางศรีศุกร์  วงวิจิตร

อธิบดีกรมสามัญ

ครูติมอร์-เลสเตใช้สื่อการสอนทางไกล บูรณาการความรู้สอนเด็ก “เรียนที่บ้าน”

ครูติมอร์-เลสเตใช้สื่อการสอนทางไกล บูรณาการความรู้สอนเด็ก “เรียนที่บ้าน”

ผลพวงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการศึกษาที่หันมาเน้นการเรียนทางไกลจากที่บ้าน โดยครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีปี 2562 ประเทศติมอร์-เลสเตได้มีบทบาทสำคัญในการเป็น “ครูผู้สร้างแรงบันดาลใจ และการสอนทางไกล” ให้กับเด็กๆและครูชาวติมอร์ฯ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบไปทั่ว รัฐบาล 191 ประเทศทั่วโลก ประกาศปิดสถานศึกษาทั้งประเทศ มีผู้เรียนได้รับผลกระทบกว่า 1.5 พันล้านคน (มากกว่าร้อยละ 90 ของผู้เรียนทั้งหมด) สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศมิมอร์-เลสเต ที่แม้จะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อไม่มากและไม่มีผู้เสียชีวิต แต่รัฐบาลประเทศติมอร์-เลสเตก็คอยเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างจริงจัง  โดยที่กระทรวงศึกษาธิการของประเทศติมอร์-เลสเตเองมีนโยบายสั่งปิดสถานศึกษาและใช้มาตราการ “เว้นระยะห่างทางสังคม” (Social distancing) การดูแลพื้นที่ในเขตต่างๆ นโยบายส่งเสริมการศึกษาทางไกล สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทำงานที่ “บ้าน” และจัดการเรียนการสอนที่ใช้ “บ้านเป็นที่เรียน” เพื่อให้เด็กๆ ชาวติมอร์ฯได้เรียนรู้ในเรื่องต่างๆที่จำเป็นโดยไม่ต้องเดินทางมาโรงเรียน

[KGVID]http://www.pmca.or.th/thai/wp-content/uploads/2020/05/timormamalu.mp4[/KGVID]
วีดิทัศน์การสอนของครูลูร์เดส รันเจล กอนซัลเวซ  (Ms. Lourdes Rangel Goncalves)
โดยความร่วมมือของยูนิเซฟ
ที่มา: 
https://www.facebook.com/mejd1823/videos/656245525217854/

ครูลูร์เดส รันเจล กอนซัลเวซ  (Ms. Lourdes Rangel Goncalves)  ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 หรือ “มาม่าลูร์” แห่งโรงเรียนประถมศึกษามาตาตา ฟิเลีย เมืองเอเมร่า เล่าว่า โดยปกติโรงเรียนประถมศึกษามาตาตา ดูแลเด็กนักเรียนซึ่งมีบริบทอยู่ในพื้นที่ภูเขา มีความห่างไกลด้อยโอกาส เด็กๆ ส่วนใหญ่ต้องเดินทางจากบ้านมาโรงเรียนอย่างน้อย 1-3 กิโลเมตรเพื่อมาโรงเรียน ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้เองที่รัฐบาลได้มีมาตรการล็อคดาวน์และปิดสถานการณ์ศึกษาชั่วคราว โดยปรับแนวทางให้เน้นให้จัดการเรียนการสอนทางไกลเพื่อให้เด็กจำนวนมากที่อยู่บ้านสามารถดูแลตัวเองและเรียนรู้จากที่บ้านได้

ครูลูร์เดสเล่าว่า การปิดสถานศึกษาชั่วคราวนี้เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะที่โรงเรียนปิดนี้ ครูของโรงเรียนต้องปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์ เพราะโดยปกติโรงรียนประถมศึกษามาตาตาแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “โรงเรียนเพื่อนเด็ก” (Child–Friendly School) ของยูนิเซฟในโรงเรียน ซึ่งเน้นให้โรงเรียนให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและสร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับเด็ก ทำให้ครูจึงสามารถเข้าถึงเด็กและผู้ปกครองของเด็กทุกคนได้ ดังนั้นในสถานการณ์วิกฤตนี้ การทำงานกับครอบครัวและชุมชนจึงยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นช่วงที่การเรียนรู้ที่บ้านมีความหมายมาก ทุกบ้านต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง พ่อแม่ช่วยติดตามสถานการณ์และสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กๆ ผ่านการติดต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ที่ง่ายที่สุดสำหรับพ่อแม่ เช่น ประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนและชุมชน จดหมายข่าว โทรศัพท์ โทรทัศน์ ซึ่งครูใหญ่ ครูและเพื่อนครูต่างร่วมมือกันกับพ่อแม่ทำงานในการดูแลช่วยเหลือและการเรียนรู้กันอย่างเต็มที่

ในการจัดการเรียนการสอนทางไกลนั้น กระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมกับ ยูนิเซฟออกแบบการจัดการสอนทางไกลผ่านโทรทัศน์และออนไลน์ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเรียนที่บ้านได้ผ่าน TVTL และ GMN-TV ซึ่งเป็นรายการทางการศึกษาที่ผลิตขึ้นสำหรับการจัดการเรียนรู้ทางไกลในสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ โดยมีครูลูร์เดสและคณะครูจากที่ต่างๆ มาร่วมเป็นออกแบบการสอนและครูผู้สอนในรายการด้วย โดยจัดทำเป็นรายการโทรทัศน์มีความยาวแต่ละตอนประมาณ 30 นาที ที่เด็กๆจะสามารถเรียนรู้แบบบูรณาการและฝึกปฏิบัติตามกิจกรรมในวิชาสำคัญๆ ทั้งภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ดนตรี ฯลฯ โดยครูลูร์เดสเองมีบทบาทในการรับผิดชอบการออกแบบการสอน “ทวิภาษา” ในภาษาเตตุมและภาษาโปรตุเกส ซึ่งออกแบบให้สำหรับเด็กประถมศึกษาเพื่อเป็นการเตรียมพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดีในช่วงวิกฤตนี้ โดยคณะครูได้ร่วมกันออกแบบเนื้อหาและกิจกรรมให้สนุกสนาม เน้นว่า ทำอย่างไรที่การจัดการเรียนรู้จะเป็นเรื่องที่เด็กๆ สามารถดูสื่อ เรียนรู้และฝึกลงมือปฏิบัติไปพร้อมๆกันได้และสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้ในชีวิตจริงได้ โดยมีผู้สนับสนุนการออกแบบและผลิตรายการโดยยูนิเซฟและกระทรวงศึกษาธิการร่วมกัน

ความท้าทายของการจัดการเรียนทางไกลที่ติมอร์-เลสเตนั้น ครูลูร์เดสมองว่า เดิมทีการเปิดภาคเรียนการศึกษาจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้การเปิดภาคการศึกษาเลื่อนออกไปเดือนสิงหาคม ซึ่งในระหว่างนี้นอกจากครูจะต้องออกแบบการสอนเพื่อจัดทำรายการโทรทัศน์แล้ว ยังคงต้องเตรียมความพร้อมความปลอดภัย การบริหารจัดการและออกแบบการจัดการเรียนการสอนเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย

สถาบันรามจิตติ รายงาน
ภาพ :  ครูลูร์เดส รันเจล กอนซัลเวซ
ภาพ/วิดีทัศน์ : Ministério da Educação, Juventude e Desporto

วิธีการเสนอชื่อครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๔ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

วิธีการเสนอชื่อครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๔ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

การเสนอชื่อครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ต้องทำอย่างไร
ประชาชนทั่วไป เสนอชื่อครูแบบออนไลน์
ได้ที่นี่>>

ประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนและเสนอชื่อแบบออนไลน์ได้ที่นี่>>

 

การเสนอชื่อครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 ปี 2564

แผนปฏิบัติการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 ปี 2564

 

คู่มือการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

 


ปรับปรุงล่าสุด 12 ส.ค. 2563

ประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนและเสนอชื่อแบบออนไลน์ได้ที่นี่>>

NameSizeHits
NameSizeHits
13. การเสนอชื่อและเกณฑ์การตัดสิน ประจำปี พ.ศ. 2564
1. แบบฟอร์ม-องค์กรภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา (บ.๑)0.1 MiB2770
2. แบบฟอร์ม-ลูกศิษย์ (บ.๒)0.1 MiB2602
3. แบบฟอร์ม-คณาจารย์ (บ.๓)82 KiB1586
4. แบบบันทึกความโดดเด่น-กก.จว.เสนอ กก.ส่วนกลาง (บ.๔)0.1 MiB1817
5. หลักเกณฑ์วิธีการสรรหาและคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๔ ปี ๒๕๖๔ (ประเทศไทย)0.2 MiB15578
6. คู่มือหลักเกณฑ์วิธีการสรรหาและคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พ.ศ. 25641.3 MiB17256
7. แผ่นพับประชาสัมพันธ์19.8 MiB2016
ขอเชิญเข้าอบรมออนไลน์ ”สอนออนไลน์ ทำได้อย่างไร สำหรับครูไทย”
แนวทางการเปิดโรงเรียนของประเทศสิงคโปร์ รับมือโควิด-19 ช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2563

แนวทางการเปิดโรงเรียนของประเทศสิงคโปร์ รับมือโควิด-19 ช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2563

กระทรวงศึกษาธิการ ประเทศสิงคโปร์ วางแผนเตรียมการเปิดโรงเรียนใน วันที่ 1 มิถุนายน 2563  เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 โดยมีการกำหนดให้นักเรียน จำนวน 3 กลุ่ม มาเรียนในวันที่  19 พฤษภาคม 2563 เพื่อให้นักเรียนได้มีการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียนดังนี้

  • กลุุ่มที่ 1 ระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับวิทยาลัย และระดับเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย
    เนื่องจากกลุุ่มนี้เป็นนักเรียนที่จะต้องเข้ารับการทดสอบระดับชาติ (National Exams)
  • กลุุ่มที่ 2 นักเรียนต้องมีการเรียนรูู้แบบฝึกปฏิบัติ  (Hands-on skill) ที่จำเป็นต้องมาลงมือปฏิบัติ
  • กลุุ่มที่ 3 นักเรียนที่มีปัญหาการเรียนรูู้ และต้องการเรียนการสอนแบบพบกันในชั้นเรียน (Face-to-face)
    โดยจะให้โรงเรียนเป็นผู้ระบุว่านักเรียนคนใด มีปัญหาเรื่องการเรียนรู้ดังกล่าว ก็จะให้เชิญเฉพาะนักเรียนคนนั้นหรือกลุ่มนั้นมาเข้าแบบกลุ่มเล็ก (Catch-up sessions)การจัดการเรียนการสอนช่วงเตรียมความพร้อม ยึดปฏิบัติตามมาตรการในลักษณะ “Careful and Calibrated Manner” ดังนี้
    1. นักเรียนและครูทุกคนจะต้องใช้งาน “TraceTogether”  ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถติดตามผู้เรียนได้ว่านักเรียนและครู ได้เดินทางผ่านพื้นที่เสี่ยงหรือไม่
    2. โรงเรียนจะมีจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามกระบวนการ “SafeEntry protocol” ซึ่งเป็นการ
    ตรวจสอบความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน และเก็บข้อมูลการเข้า-ออกของนักเรียนอย่างเคร่งครัด
    3. จัดเวลาให้นักเรียนมาโรงเรียนเหลื่อมกัน สลับกัน โดยจะไม่ให้มาวัน-เวลาพร้อมกัน
    4. ใช้วิธีการเรียนแบบตัวต่อหัว หรือกลุ่มเล็ก เท่านั้น
    5. จัดห้องให้มีระบบระบายอากาศ หมุนเวียนอากาศตลอดเวลา
    6. จัดห้องให้ระบุที่นั่งแน่นอน กำหนดชื่อคนและที่นั่งให้ตายตัว ห้ามย้ายที่นั่ง
    7. ห้ามโรงเรียนจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรค
    8. วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน ตามระยะเวลาที่กำหนด
    9. นักเรียนและครูทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย
    10. ให้นักเรียนมาโดยสมัครใจ ไม่บังคับ
มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายครูรางวัลนำความรู้สู่โรงเรียนก้าวทันเทคโนโลยี ปรับสาระการเรียนการสอนอาชีพและเทคโนโลยี

มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายครูรางวัลนำความรู้สู่โรงเรียนก้าวทันเทคโนโลยี ปรับสาระการเรียนการสอนอาชีพและเทคโนโลยี

 


เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2563 มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และสถาบันรามจิตติ นำเครือข่ายครูกลุ่มสาระอาชีพและเทคโนโลยี ศึกษาดูงานด้านอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาล และเทคโนโลยี ณ อุทยานมิตรผลภูเขียว และหนองแซงโมเดล อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อออกแบบการเรียนการสอนอาชีพและเทคโนโลยีสำหรับนักเรียนนักศึกษา นำโดย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และคณะเครือข่ายครูประกอบด้วย โรงเรียนบ้านโพธิ์ดอนหวาย บุรีรัมย์ โรงเรียนบ้านบ่อดิน บุรีรัมย์ โรงเรียนบ้านยายคำ บุรีรัมย์ โรงเรียนสารคามพิทยาคม โรงเรียนบ้านสะอาด (สะอาดวิทยาคาร) ร้อยเอ็ด โรงเรียนเชียงขวัญพิทยาคม ร้อยเอ็ด โรงเรียนจันทรุเบกษาอนุสรณ์ ร้อยเอ็ด วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง ร้อยเอ็ด โรงเรียนบ้านหมากตูมดอนยานาง อุดรธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี วิทยาลัยสารพัดช่างอุดรธานี สำนักงานศึกษาธิการภาค 10 อุดรธานี โรงเรียนพระพุทธบาทเทสรังสีวิทยา หนองคาย โรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมาพึ่งบารมี สกลนคร โรงเรียนบ้านนาแก สกลนคร

โรงเรียนบ้านจอหอ นครราชสีมา วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา โรงเรียนเลยพิทยาคม โรงเรียนเทศบาล 3 เทศบาลอนุสรณ์ สุรินทร์ โรงเรียนบ้านเลิศอรุณ สุรินทร์ โรงเรียนบ้านโนน นิยมศาสตร์ศึกษา สุรินทร์ โรงเรียนหนองเรือวิทยา ขอนแก่น โรงเรียนบ้านโนนทอง ขอนแก่น โรงเรียนบ้านเขว้าวิทยายน ชัยภูมิ โรงเรียนภูเขียวชัยภูมิ

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมิตรผลได้อธิบายถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมน้ำตาล กระบวนการผลิตน้ำตาล การพัฒนาชุมชนด้วยการส่งเสริมเกษตรกรปลูกอ้อยและการทำโมเดิร์นฟาร์ม เพื่อความยั่งยืน รวมถึงธุรกิจต่อเนื่องของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจเอทานอล การจ้างงานผู้พิการ พร้อมทั้งได้นำเครือข่ายครูเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ของเกษตรกร ในโครงการทำตามพ่อปลูกเพ(ร)าะสุข

ด้าน ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้กล่าวกับเครือข่ายครูเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มสมรรถนะทางอาชีพและการบริหารจัดการศึกษาด้วยว่า ในภาพใหญ่นั้นต้องการเห็นเครือข่ายครูที่มาดูงานได้คิดร่วมกันและคิดกันเป็นทีม เพราะถ้าคิดคนเดียวจะทำไม่ได้ เพราะครูจะมีงานประจำมาก จนไม่มีเวลาทำเรื่องใหม่ จึงต้องคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีเวลาไปคิดเรื่องใหม่ จึงเสนอให้ครูนำไปคิดต่อว่าจะทำอะไรได้บ้าง แล้วมูลนิธิจะช่วยอะไรได้บ้าง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องจะช่วยอะไรได้บ้าง เพราะการช่วยจะต้องใช้กำลังความคิด เทคโนโลยี และทุน หากจะให้เกิดความยั่งยืน ครูจะต้องสร้างทีมให้มาก นี่คือทักษะ

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

“ดร.กฤษณพงศ์ ชี้ให้เห็นการศึกษาในอนาคตว่าจะเกิดการเปลี่ยนโฉม โดยในอดีตนั้น เราคิดว่าคนที่มีการศึกษา ถ้าจบ ม.6 ปวช. ปวส. ปริญญาตรี จะนำไปสู่อาชีพ แต่จากสิบปีที่ผ่านมาพบว่า การศึกษาไม่นำไปสู่อาชีพ เพราะฉะนั้น ต่อไปเราต้องนำอาชีพมาเป็นตัวตั้ง เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง เราจึงต้องถอยกลับมามองว่า ชีวิต อาชีพ นั้นคืออะไร ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายเดียวกันคือชีวิตและอาชีพที่ดีในอนาคต และการศึกษาเป็นตัวตาม ฉะนั้น การจัดการศึกษาในอนาคต จึงต้องถอยมามองที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น จึงต้องให้คนที่มองอนาคตไว้ มาช่วยออกแบบจัดการศึกษา เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ถ้าเรารู้ว่าเราไม่รู้อะไร เราไปหาสิ่งที่เราไม่รู้ได้ แต่ที่น่าห่วงคือ เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้อะไร เราจึงทำไม่ถูก เราจึงต้องไปหาคนที่พอจะบอกเราได้ว่าเราไม่รู้อะไร”
ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวอีกว่า เขาบอกว่าการศึกษาสร้างคนไปสู่ชีวิต แต่การฝึกไปสู่อาชีพหรือการงานนั้นต่างกัน และหน้าที่ของการศึกษาคือต้องสร้างคนไปสู่อนาคต ไปแก้ไขปัญหาที่ยังไม่เกิด ซึ่งจะต้องมีความสามารถอะไรที่จะไปแก้ปัญหาที่ยังไม่เกิดได้ ตอนนี้การศึกษาในระบบของเราสอนให้ตอบ แต่คนที่จะอยู่ได้จะต้องตั้งปัญหาเป็น ต้องตั้งปัญหาได้ถูกต้องก่อน เราต้องสอนให้คนตั้งปัญหาได้ ถ้าเราตั้งได้ เราจะพบได้ว่าปัญหามีคำตอบ ขณะที่ปัญหาที่เราเรียนในห้องเรียนมีปัญหาที่มีคำตอบเดียว ทำให้ปิดสมองหมดเลย นี่เป็นสิ่งที่เราพยายามสอนให้ตั้งปัญหา เพราะปัญหาทุกปัญหานั้นถูกหมดแต่แล้วแต่เงื่อนไข คือคำตอบถูกในเงื่อนไขหนึ่ง แต่ผิดในอีกเงื่อนไขหนึ่ง จึงแล้วแต่เป้าหมายนั้นคืออะไร เราจึงต้องถอยไปสู่เป้าหมายก่อนจึงจะได้คำตอบ ไม่ใช่เอาคำตอบก่อนไปสู่เป้าหมาย เท่ากับว่าเรามีคำตอบ แต่คำถามอยู่ที่ไหน จึงต้องเริ่มด้วยคำถามก่อน
ขณะที่ ครูนฤมล สาหล้า โรงเรียนบ้านโนนทอง จ.ขอนแก่น ครูที่ได้รับรางวัลครูขวัญศิษย์ ประจำปี 2562 จากมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวถึงการมาศึกษาดูงานที่โรงงานน้ำตาลครั้งนี้ ได้ตั้งความหวังไว้ว่าจะนำไปขยายผล โดยจะนำไปสอนเด็กในส่วนไหนที่เราได้รับความรู้ในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นครั้งแรกในการมาดูงานที่โรงงานน้ำตาล ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องอ้อย การผลิต ไฟฟ้า โดยจะนำไปปรับในเรื่องของภาษาไทยให้เด็กได้เขียนในความรู้แต่ละเรื่องว่ามีความคิดอย่างไร สังเคราะห์ออกมาอย่างไรได้บ้าง ซึ่งเด็กการศึกษาพิเศษนั้น เรื่องการอ่านการเขียนจะไม่คล่อง แต่สามารถเอาคำหรือภาพไปสอนเด็กได้
ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวต่อไปว่า นี่จึงเป็นวิธีที่จะสอนให้เด็กคิดตั้งคำถามให้ถูกต้องก่อนแล้วก็ไปหาคำตอบ เนื่องจากคำตอบที่เรามีอยู่ในห้องเรียนแค่ฝึกสมอง ให้เด็กทำการทดลองในเวลาสั้น ๆ ที่มีคำตอบในหนึ่งบ่ายหรือหนึ่งอาทิตย์ แต่โลกในความเป็นจริงต้องการคำตอบในห้านาที เพราะถ้าไปหาคำตอบในหนึ่งอาทิตย์ ปัญหาก็เปลี่ยนไปแล้ว เพราะโลกได้เปลี่ยนเร็วด้วยเทคโนโลยี จึงให้ครูคิดเป็นโจทย์ต่อลูกศิษย์โดยเร็วที่สุด โดยอาจสร้างการเรียนการสอนจากสิ่งที่มีคนทำอยู่แล้วโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ จึงขอฝากครูเป็นแนวทางนำไปคิดต่อไป

 

คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเยี่ยมครูยิ่งคุณ ร่วมงานครูจัดแสดงดุริยางค์และให้กำลังใจชาวโคราช ณ เทอมิลนอล ๒๑

คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเยี่ยมครูยิ่งคุณ ร่วมงานครูจัดแสดงดุริยางค์และให้กำลังใจชาวโคราช ณ เทอมิลนอล ๒๑

วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ดร.อุดม วงศ์สิงห์ กรรมการมูลนิธิฯ และผู้แทนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และนายจิรศักดิ์ อุดหนุน สถาบันรามจิตติ ไปเยี่ยมเยือนและร่วมกิจกรรมกับครูศรัณย์ ศรีมะเริง จังหวัดนครราชสีมา ครูรางวัลคุณากร ปี ๒๕๖๐ ซึ่งได้จัดกิจกรรมงานแสดงดนตรีในงานแข่งขันกีฬาคณะสี โรงเรียนเมืองนครราชสีมาประจำปีการศึกษา ในอาคารจัดแสดงงาน ณ ห้างเทอร์มินอล ๒๑ โคราช ฮอลล์ ๑ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีนายมานะ ครุธาโรจน์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนเมืองนครราชสีมา และผู้แทนของห้างเทอร์มินอล ๒๑ เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม  โดยในงานเป็นงานแข่งขันกีฬาคณะโรงเรียนเมืองนครราชสีมา ซึ่งครูศรัณย์ ศรีมะเริง เป็นผู้ฝึกซ้อมวงดุริยางค์วงโยธวาธิต ในระดับประถมศึกษา มีการบรรเลงเพลงและการแสดงวงโยธวาธิต แปรขบวนในสนาม ภายใต้แนวคิด “We win as One : เราจะชนะเป็นหนึ่งเดียว” (ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้เทอร์มินอล ๒๑ โคราช) 

ทั้งนี้ ครูศรัณย์ ศรีมะเริง ครูรางวัลคุณากร ปัจจุบันเป็นครูชำนาญการพิเศษสอนวิชาดนตรี โรงเรียนเมืองนครราชสีมา และผู้อำนวยการสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมการประกวดวงโยธวาทิตโลก (ประเทศไทย) ผู้พัฒนาศิษย์ด้วย “ปัญจวิธีการ” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจกับนักเรียนและการส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสร้างอนาคตอีกด้วย

ครูศรัณย์ ศรีมะเริง ครูรางวัลคุณากร ปี ๒๕๖๐

ในงานนี้ประธานมูลนิธิฯ นอกจากจะเยี่ยมเยือนครูและร่วมกิจกรรมชมการแสดงแล้ว ยังถือโอกาสในการให้กำลังนักเรียน ครูและชาวโคราชที่เพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์สะเทือนขวัญการคราดยิงประชาชนในห้างเทอร์มินอล ๒๑ เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา นอกจากการเยี่ยมเยือนให้กำลังใจคราวนี้แล้ว ยังได้มีการหารือความร่วมมือกับผู้ประกอบการสถานเอกชนและท้องถิ่นที่จะร่วมกันในการต่อยอดการสนับสนุนการเรียนรู้เพื่อเด็กเยาวชน และการพัฒนาครูในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายพื้นที่สร้างสรรค์และปลอดภัยเพื่อการเรียนรู้ต่อไป

 

 

ครูเวียดนามรับมือโควิด-19 : ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รุ่น 1 เวียดนามเน้นการเรียนรู้ทางไกลผ่านออนไลน์เชื่อมโลกไร้พรมแดนแทนให้เท่าทันและสร้างทักษะอนาคต

ครูเวียดนามรับมือโควิด-19 : ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รุ่น 1 เวียดนามเน้นการเรียนรู้ทางไกลผ่านออนไลน์เชื่อมโลกไร้พรมแดนแทนให้เท่าทันและสร้างทักษะอนาคต

ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีคนแรก ประจำปี พ.ศ.2558 จากประเทศเวียดนาม ปรับแผนการเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบออนไลน์ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 (COVID-19)


นายสุรชัย ดิ่งสวัสดิ์ คณะทำงานของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ส่วนพื้นที่ ประสานหลักกับภาคการศึกษาของเวียดนาม และลาว เปิดเผยว่า ครูทราน ติ ตวย ดุง Trần Thị Thuỳ Dung ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีของไทยประจำปี พ.ศ.2558 คนแรกจากประเทศเวียดนาม อดีตครูใหญ่และครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนประถม Le Ngoc Han Primary School และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาธิการจังหวัดหล่าวกายพื้นที่ติดชายแดนประเทศจีน ได้ติดต่อประสานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในการขอการสนับสนุนการจัดการศึกษาทางไกลผ่านออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะการสื่อสารภาษาอังกฤษในช่วงที่โรงเรียนยังอยู่ในมาตราการสั่งปิดโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง

นายสุรชัยเปิดเผยว่า ทางมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้ร่วมกับเครือข่ายโรงเรียนที่จัดการเรียนรู้ทางไกลผ่านออนไลน์ ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลหนองคาย (โรงเรียนประถมศึกษา) และโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร (โรงเรียนมัธยมศึกษา) ในการร่วมกันจัดการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อให้เด็กนักเรียนเวียดนามเชื่อมต่อการเรียนรู้กับครูไทย และสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กนักเรียนไทย โดยผ่านกิจกรรมการใช้ video call พูดคุย ไปจนถึงการประชุมผ่าน video conference และการใช้ platform online ในการแลกเปลี่ยนระหว่างครูไทยกับครูในโรงเรียนต่าง ๆ ของเวียดนาม ซึ่งนับว่าในสถานการณ์วิกฤตนี้ การใช้การเรียนการสอนออนไลน์ จึงเป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยให้ครูในโรงเรียนต่าง ๆ ยังคงจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ แม้จะยังปิดโรงเรียน

ทั้งนี้ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีร่วมกับเครือข่ายโรงเรียนที่จัดการเรียนรู้ทางไกลผ่านออนไลน์ ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลหนองคาย (โรงเรียนประถมศึกษา) และโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร (โรงเรียนมัธยมศึกษา) ในการร่วมกันจัดการเรียนรู้ออลไลน์เพื่อให้เด็กนักเรียนเวียดนามเชื่อมต่อการเรียนรู้กับครูไทยและสื่อสารภาษาอังกฤษกับเด็กนักเรียนไทย  กิจกรรมมีทั้งการใช้ Video Call พูดคุย ไปจนถึงการประชุมผ่าน Video Conference เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างครูไทยกับครูในโรงเรียนต่างๆ ของเวียดนาม ซึ่งนับว่าในสถานการณ์วิกฤตนี้ การใช้การเรียนการสอนออนไลน์จึงเป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยให้ครุในโรงเรียนต่างๆ ยังคงจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้แม้จะปิดโรงเรียน

“เช่นเดียวกันกับ ครู เล ทัน เลียม Le Thanh Liem ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีของไทยประจำปี พ.ศ.2562  ครูสอนวิชาฟิสิกส์และเทคโนโลยี โรงเรียนฮิม ลัม ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 จากประเทศเวียดนาม ปีล่าสุด ก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ (mobile phone) เป็นเครื่องมือสื่อสารและสร้างการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในสถานการณ์วิกฤตนี้เช่นกัน” นายสุรชัย กล่าว

ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบมากกว่า 30 ประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อไวรัสตั้งแต่เดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมกว่า 86,991 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,978 คนแล้วทั่วโลก ซึ่งประเทศเวียดนามก็ได้รับผลกระทบ และพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 19 ราย แต่รักษาหายแล้วทุกราย และตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.2563 ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศในกลุ่มเสี่ยงของการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดทางตอนเหนือของเวียดนามซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดหล่าวกาย ห่าซาง กาวบั่ง หลั่งเซิน เป็นต้น ทั้งนี้รัฐบาลเวียดนามได้มีมาตรการเร่งด่วน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่เฝ้าระวังมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2563

ในการนี้ กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมเวียดนาม ได้สั่งให้ปิดโรงเรียนต่าง ๆ ต่อจากการปิดเทศกาลตรุษญวน (Tết) ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2563 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและยังคงปิดโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

 

 

แหล่งข่าว : ความเคลื่อนไหวการศึกษาเวียดนาม และสุรชัย ดิ่งสวัสดิ์