เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 คณะกรรมการกิจการต่างประเทศ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประชุมขับเคลื่อนกิจกรรมการประชุมวิชาการนานาชาติ ครั้งที่ 3 พร้อมทั้งสนับสนุนการสรรหาครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีอาเซียนและติมอร์-เลสเต รุ่นที่ 4 ประจำปี 2564 นำโดย ดร.เตช บุนนาค ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศ ณ ห้องประชุม 3 กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่เวลา 09.30-12.00 น.
คณะกรรมการกิจการต่างประเทศ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้พิจารณากำหนดการประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ที่มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีจะจัดขึ้น ณ โรงแรมสยาม เคมเปนสกี้ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 22-24 ตุลาคม 2563 แต่เนื่องจากในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการปรับรูปแบบการประชุมเป็นรูปแบบผสม คือ ใช้สถานที่จริงในช่วงพิธีเปิด และประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในช่วงหลังพิธีเปิด จนกระทั่งเสร็จสิ้นการประชุม ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานการประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3
ที่ประชุมยังได้พิจารณาและร่วมการขับเคลื่อนในการสรรหาครูอาเซียน 10 ประเทศ และติมอร์-เลสเต ที่สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 ประจำปี 2564 โดยพร้อมที่จะประสานงานแต่ละประเทศให้ทราบและดำเนินการคัดเลือกครูที่สมควรได้รับพระราชทานรางวัล โดยประสานความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศเพื่อการมีส่วนร่วมจากสถานเอกอัครราชทูตไทยทั้ง 11 ประเทศ
ทั้งนี้ ดร.เตช บุนนาค ประธานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีมีมาตรฐานสากล และรางวัลนี้มีความสำคัญกับประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วม 10 ประเทศและติมอร์-เลสเต ตัวอย่างเช่น ประเทศเมียนมา ที่ผ่านมาได้คัดกรองครูในทุกรัฐของเมียนมา จนคัดกรองครูที่ได้รับรางวัลที่ดีมาก ซึ่งเป็นรางวัลที่น่าภูมิใจมาก
ด้าน ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวถึงบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูตที่จะมีบทบาทเข้ามาสนับสนุนการขับเคลื่อน ซึ่งในเดือนตุลาคม 2563 จะมีการจัดประชุมวิชาการนานาชาติ ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีอาเซียนและติมอร์-เลสเต แต่มีอุปสรรคในการเดินทางมาประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงได้จัดให้มีการประชุมออนไลน์ระหว่างประเทศ และขอความร่วมมือกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตพิจารณาดำเนินการครั้งนี้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานทูต
ข่าว: สยามสิน วลิตวรางค์กูร
ภาพ: สถาบันรามจิตติ