
วันที่ 2 มิถุนายน 2025 ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้เข้าพบกับ Dr. Shamsiah Zuraini Kanchanawati Binti Haji Tajuddin ปลัดกระทรวงศึกษาธิการของบรูไนดารุสซาลาม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการฯ พร้อมด้วยครู Dayang Hajah Shahrifah Binti Haji Mohd Shahlan ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประจำปี 2568 เพื่อขอบคุณและแจ้งความเคลื่อนไหวผลการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีใน 14 ประเทศ
การเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการบรูไนฯ ครั้งนี้ยังได้มีการหารือร่วมกันถึงความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกิจกรรมของมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับผู้ได้รับรางวัลฯ โดยได้มีการเชิญอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 6 ในวันที่ 15 ตุลาคม 2025 ที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไนได้เล่าว่า ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการได้ถึงการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีของประเทศบรูไน ปี 2566 รวมถึงระบบการพัฒนาครูและยกระดับคุณภาพครู โดยครู Dayang Hajah Shahrifah Binti Haji Mohd Shahlan ครูผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2566 นี้ เป็นหนึ่งในครูที่เป็นมีบทบาทสำคัญที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาพัฒนาการเรียนการสอนและการศึกษา
ส่วนความเคลื่อนไหวของความร่วมมือทางการศึกษา ในปี 2566 ได้สนับสนุน Mr. Mohamad Amir Irwan Bin Haji Moksin ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2566 จากโรงเรียนประถม Pengiran Kesuma Negara Bukit Beruang เยี่ยมเยือนประเทศไทยโดยเยือนคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (PSU) และมีกิจกรรมเชื่อมโยงในการนำนักเรียนมาแข่งขันทักษะทางวิชาการ ณ มหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีความตั้งใจสนับสนุนนักเรียนให้ได้เข้าร่วมโครงการแข่งขันทางวิชาการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาครูในประเทศ โดยเน้นให้การเพิ่มบทบาทเป็น “นักวิจัย” เพื่อนำองค์ความรู้มาพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บรูไนยังเตรียมจัดการประชุม Teachers Day Conference ในวันที่ 8 – 9 ตุลาคม 2568 โดยเชิญวิทยากรจากนานาประเทศในภูมิภาคมาแบ่งปันประสบการณ์ ด้านการศึกษาระหว่างประเทศ สำหรับปีนี้ วิทยากรหลัก (Keynote Speaker) จะมาจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการศึกษาของฟินแลนด์ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก
ด้าน ดร.กฤษณพงษ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิฯ ได้กล่าวถึงพันธกิจของมูลนิธิฯ ในทศวรรษที่ 2 ที่ได้ขยายเครือข่ายประเทศสมาชิกเพิ่มอีก 3 ประเทศใหม่ ได้แก่ มองโกเลีย ภูฏาน และบังกลาเทศ ในการสรรหาครูเพื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีในปี 2568 ในเดือนตุลาคมปีนี้ พร้อมทั้งเชิญปลัดกระทรวงศึกษาธิการบรูไนเข้าร่วมพิธีการอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังร่วมหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางการศึกษาที่คาดให้เกิดความเคลื่อนไหวในกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ทั้งในกลุ่มครู นักเรียน และเจ้าหน้าที่ ไม่จำกัดเฉพาะการเดินทางมายังประเทศไทย แต่ขยายไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค ผ่านความร่วมมือของมูลนิธิฯ ภายใต้แนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” บรูไนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาสำหรับประชากรวัยทำงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนา Pedagogy for the re-learning of the working age population เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจใหม่
นอกจากนี้ ประธานมูลนิธิยังได้กล่าวถึงแนวคิดและแนวทางความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างบรูไนและไทย ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาครูร่วมกันใน 14 ประเทศ ในรูปแบบ Show and Share เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสอน และการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน โครงการส่งเสริมความฉลาดหลากหลายด้าน (Multiple Intelligence) และโรงเรียนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ โดยใช้เครือข่ายโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย 18 แห่ง ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ 20 ห้องเรียน โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (MWIT) และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (K-WIT) ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้าน Multiple Intelligence พร้อมจัด IT Camp ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดระยอง โครงการแลกเปลี่ยนด้านการกีฬา โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนจากบรูไนได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาชั้นนำในประเทศไทย เพื่อพัฒนาทักษะและสร้างประสบการณ์ด้านการกีฬาร่วมกัน ค่ายพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ (Entrepreneurship Skill Boot Camp) สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ โดยจัดเป็นค่ายฝึกทักษะผู้ประกอบการ พร้อมรับการสนับสนุนจาก เอกอัครราชทูต (HE Ambassador) และกระทรวงการต่างประเทศ (MFA) หรือแม้แต่โครงการการท่องเที่ยวเชิงคุณค่าสูง (High Value Hospitality Tourism) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางการเรียนรู้และพัฒนาอาชีพใหม่ที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพร้องต้องกันว่า การเดินหน้าสานต่อความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทยและบรูไน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการสร้างเครือข่ายทางการศึกษาในระดับภูมิภาค ที่มุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนาบุคลากรครู และการสร้างโอกาสทางการศึกษาระหว่างไทยและบรูไนร่วมกันต่อไปในอนาคต