เครือข่ายครูร่วมขับเคลื่อนการเรียนรู้ศิลปะสร้างอนาคต ชี้โลกยุคใหม่ศิลปะจะเติมเต็มจิตวิญาณและสร้างทักษะอนาคต

มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีได้จัดให้มีการเสวนาสัญจรการจัดการเรียนรู้เพื่อผู้เรียนยุคใหม่ : ตัวแบบและบทเรียนจากครูเครือข่ายรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีในประเทศไทย เรื่อง “ศิลปะสร้างคน จิตวิญญาณ เปิดเส้นทางอนาคต” วันเสาร์ ที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 09:30 – 12:00 น. โดยการเสวนาครั้งนี้จัดในรูปแบบผสมผสานระหว่างเวทีเสวนาสัญจรในพื้นที่ ณ โรงเรียนบ้านไทยสามัคคี อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ควบคู่กับเสวนาออนไลน์ควบคู่กันไป โดยมีวิทยากรเสวนาซึ่งเป็นครูในเครือข่ายมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้แก่ ครูสิทธิชัย จันทร์คลาย ครูรางวัลคุณากร ปี 2564 โรงเรียนบ้านไทยสามัคคี อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ผู้ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพในกับเด็กวัยเรียนประถมศึกษาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ดร.นิพนธ์ นิกาจิ ครูรางวัลยิ่งคุณ ปี 2564 ผู้ดูแลสวนสอนศิลป์  Nikachi Gallery อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ผู้เป็นทั้งครูนักสร้างแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ ศิลปินและภูมิปัญญาด้านศิลปะแห่งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ใช้ศิลปะเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กเยาวชนทั้งในระบบและนอกระบบ รวมถึงกลุ่มคนชายขอบ และ ครูพีระพงษ์ วงศ์ศรีจันทร์ ครูรางวัลขวัญศิษย์  ปี 2560 โรงเรียนซับมงคลวิทยา อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ผู้เป็นแรงบันดาลใจของเด็กในพื้นที่ห่างไกลชายขอบ สร้างโอกาสและเส้นทางค้นหาศักยภาพและความฝันด้วยการสร้างนิเวศน์สุนทรีย์ “Artscape” และ “Returning Home Artscape พา “เด็กกลับบ้าน” เพื่อเป็นพื้นที่สร้างชีวิตและจิตวิญญาณให้กับเด็กๆ ในทุกช่วงวัยเพื่อการเติบโตอย่างเป็นองค์รวมและก้าวต่อไปในอนาคต โดยมีนายจิรศักดิ์ อุดหนุน สถาบันรามจิตติ เป็นผู้ดำเนินรายการ 

ในเวทีเสวนาดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ดร.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกล่าวเปิดวงประชุม พร้อมด้วยคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมวงเสวนากล่าวให้กำลังใจครูทุกท่าน โดยผู้เข้าร่วมเสวนาประกอบด้วยครูในเครือข่ายมูลนิธิฯ และเครือข่ายครูในภูมิภาคต่างๆ และนักเรียนที่สนใจเข้าร่วมวงเสวนาทั้งจากทางออนไลน์ และครูในในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้ เวทีเสวนานี้ยังได้รับเกียรติจากดร.กฤษณพงศ์ กรีติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ดร.เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผู้จัดการมูลนิธิฯ ดร.ชัดเจน ไทยแท้ ดร.อมรทิพย์ เจริญผล อดีตศึกษานิเทศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2 และคณะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไทยสามัคคี และผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ ในอำเภอตาพระยาเข้าร่วมวงเสวนาในพื้นที่ พร้อมด้วยดร.จุฬากรณ์ มาเสถียรวงศ์ คณะทำงานมูลนิธิฯ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ และทีมงานสถาบันรามจิตติ ทีมงานครุวัตรร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าวโดยความร่วมมือกับคณะครูโรงเรียนบ้านไทยสามัคคี อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว

ดร.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึง ความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ส่งผลกระทบต่อนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรากฏการณ์ภาวะความรู้ถดถอย (Learning Loss) ที่นักเรียนและครูกำลังเผชิญ และส่งผลต่อการปรับตัวอย่างมากของครูในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีความท้าทายยิ่งต่อการพัฒนาการศึกษาไทย นอกจากนี้ ยังชื่นชมแนวทางการจัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ที่ได้มีการดำเนินกิจกรรมเผยแพร่ และถอดบทเรียนเครือข่ายครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีมาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้การสวนาในหัว “ศิลปะสร้างคน จิตวิญญาณ เปิดเส้นทางอนาคต”  มองว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นเครื่องมือและกระบวนการสร้างการเรียนรู้ให้เด็กอย่างเป็นองค์รวม รวมถึงยังได้ชื่นชมคุณครูสิทธิชัย จันทร์คลาย ซึ่งได้ใช้วิชาศิลปะในการพัฒนาเด็กและการศึกษาของเด็กในพื้นที่จังหวัดสระแก้วอีกด้วย

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้กล่าวทักทายผู้เข้าร่วมเสวนาและกล่าวถึงการเสวนาครั้งนี้ว่ามีคุณค่ามาก และเชื่อว่าไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะครูศิลปะ คุณครูทุกคนสามารถจะเรียนรู้จากประสบการณ์ของครูทั้ง 3 ท่าน และนำไปเสริมเสน่ห์ในการเรียนการสอนได้อย่างแน่นอน  เพราะสิ่งหนึ่งที่เด็กมีเสมอกัน คือการชอบการสร้างสรรค์โดยผ่านงานศิลปะ ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถมากน้อยเพียงใดก็จะเห็นได้ว่าเขามีความสุข  นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่าเรื่องราวของครูทั้ง 3 ท่าน ทำให้ได้เรียนรู้ว่า สามารถเป็นทางเลือกในการนำไปประกอบอาชีพได้อย่างแน่นอน และสามารถช่วยให้คิดนอกกรอบได้อีกด้วย

สำหรับการเวทีเสวนา ดังกล่าว ครูพีระพงษ์ วงศ์ศรีจันทร์ หรือครูเอ ครูรางวัลขวัญศิษย์  ปี 2560 โรงเรียนซับมงคลวิทยา อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ วิทยากร ได้กล่าวว่า ศิลปะว่าเป็นวิชาที่สุดแสนอัศจรรย์เพราะ “เป็นสิ่งที่ทำให้เราค้นหาสิ่งที่ลึกอยู่ในจิตใจเด็กได้ไวที่สุด ทำให้เด็กได้ค้นพบตัวตนของตนเองได้ไวที่สุด” ซึ่งเมื่อเราค้นพบได้ไวที่สุดจะทำให้เราเสียเวลาน้อยที่สุด เดินตรงได้ไว  ซึ่งสิ่งนี้ครูจะช่วยแนะนำแนวทาง และส่งเสริมให้เด็กไปตามทางที่ตนเองสนใจและมีความถนัด เช่น “เด็กคนนี้น่าจะไปทางสายบัญชี เด็กคนนี้จะออกไปประกอบอาชีพ ครูก็ให้เรียนงานปั้น งานมัดย้อมที่สามารถนำไปเป็นอาชีพได้เลย หรือเด็กคนนี้มีความสนใจที่จะมุ่งไปทางสายศิลปะที่สูงขึ้นก็จะช่วยสอนช่วยฝึกจนเข้าระดับปริญญาตรีทางสายศิลปะ” เป็นต้น ครูพีระพงษ์จะใช้กิจกรรมบูรณาการ บ่มเพาะความดี ความงาม ปลูกฝังการอยู่ร่วมกัน คุณธรรมต่างๆ  เมื่ออยู่ร่วมกันเหมือนครอบครัว เด็กจะไว้ใจและพูดในสิ่งที่ไม่เคยพูดในชั้นเรียน เราจะรู้เรื่องลึกๆของเด็กๆและสามารถช่วยเค้ารับมือกับปัญหาหรือเรื่องราวต่างๆได้ทันท่วงที ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดในพื้นที่ “Artscape” เสมอมา นอกจากนี้ปัจจุบันครูเอยังได้เปิดพื้นที่ “Returning Home Artscape” โดยใช้ที่ไร่เก่าของครูมาสร้างพื้นที่เรียนรู้ สร้างพื้นที่เรียนรู้สำหรับทุกคนในชุมชน ไม่เพียงแต่นักเรียนแต่รวมถึงผู้คนในชุมชนได้มาเรียนรู้ทักษะอาชีพ ภูมิปัญญาและเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกัน  การเกษตรอย่างง่าย ปลูกผัก ผ้ามัดย้อม และพิมพ์ผ้า (Eco-printing)  หรือการทำเครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น ซึ่งเป็นพื้นที่ของความสุขที่แสดงความเป็นตัวตนของครูเอที่เป็นครูด้วยชีวิตได้อย่างเต็มที่

ทางด้านครูสิทธิชัย จันทร์คลาย ครูรางวัลคุณากร ปี 2564 โรงเรียนบ้านไทยสามัคคี อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว มองเรื่องการมุ่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กโดยใช้วิธีบูรณาการด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย สอนให้คิดสร้างสรรค์ให้หลุดจากความคิดเดิมๆ ด้วยการตั้งคำถามชวนให้คิดสร้างสรรค์ หรือหัวข้อแปลกๆ เช่น หัวข้อรถที่ไม่มีในโลก หรือเมืองใต้พิภพ ตามแต่จินตนาการ เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้เด็กๆจะสามารถคิดสร้างสรรค์ได้หลากหลาย เพราะไม่มีถูกมีผิด เด็กได้ฝึกคิด ฝึกนำเสนอ ฝึกพูดถึงสิ่งที่ตัวเองได้สร้างสรรค์ขึ้นมา ทำให้การเรียนสนุกขึ้น และกระตือรือร้นในการเรียนมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับตัวเด็กเองจากเด็กบ้านนอกที่ไม่มีความคิด ความฝัน เด็กจบป.6 ก็ออกมาทำงานหรืออย่างมากจบชั้นม. 3 ไปสู่การมุ่งศึกษาในระดับม.ปลายรวมถึงระดับอุดมศึกษามากขึ้นๆ  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ทางนางสาวกมลเนตร คำกลอง นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่ได้รับทุนเรียนต่อจนถึงระดับอุดมศึกษา ได้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับว่า เป็นนักเรียนที่เรียนกับครูตั้งแต่ตอนเป็นเด็กอนุบาลตามคุณยายมา จนเรียนถึงชั้นมัธยม สิ่งที่เรียนกับครูสิทธิชัยทำให้ตนเป็นคนมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าแสดงออก และที่สำคัญมีทักษะทางศิลปะติดตัวไปใช้ในการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นอีกด้วย

ข่าวและภาพ: สถาบันรามจิตติ