มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ส่งสาส์นสวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2564 แด่เครือข่ายครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีทั่วประเทศ และครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีจากอาเซียนและติมอร์-เลสเต


มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ส่งสาส์นสวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2564 แด่เครือข่ายครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีทั่วประเทศ และครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีจากอาเซียนและติมอร์-เลสเต ความว่า นับเป็นความปลื้มปีติยิ่งที่ในปี พ.ศ.2563 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 และทรงมีพระราชดำรัสแด่ครูตอนหนึ่งว่า

“จากประสบการณ์ของข้าพเจ้าที่ได้ทำในเรื่องพัฒนาการศึกษามากว่า 40 ปี จึงเข้าใจในบทบาทของครูที่มีความสำคัญมากต่อชีวิตของเด็ก ครูจึงมีบทบาทหลายอย่างโดยเฉพาะครูที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกล เช่น ครูเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งแม่ หมอ พยาบาล คนสวน ช่างไม้ ช่างไฟ แม้แต่ผู้ให้คำแนะนำกับชุมชน บางครั้งก็เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในชุมชน ข้าพเจ้าจึงให้การสนับสนุนครูเพื่อให้ครูได้ทำงานอย่างเต็มที่…”

และหลังทรงรับฟังการอภิปรายแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชดำรัสเพิ่มเติมตอนหนึ่งว่า

“ในระหว่างที่โรงเรียนปิดเนื่องจากโควิด-19 ถึงแม้โรงเรียนจะปิดแต่การศึกษานั้นปิดไม่ได้ ครูทั้งหลายได้เล่าถึงการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบออนไลน์ แต่มีครอบครัวอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีทีวี ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ครูของแต่ละโรงเรียนจึงมีการจัดหาเทคโนโลยีเพื่อให้เด็กได้เรียน หรือเดินทางไปแจกจ่ายตำราแบบฝึกหัด โดยใช้รถจักรยานยนต์ รถกระบะ ซึ่งเป็นการเดินทางที่ยากลำบากเพื่อส่งตำราเรียนให้กับเด็ก มีการบ้านให้ ไปตรวจการบ้านเด็ก ๆ ซึ่งข้าพเจ้าขอขอบใจทุกท่านที่เป็นตัวอย่างของครูที่ดี…”

การประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 นี้ แตกต่างจากทุกครั้ง เนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการจำกัดการเดินทางและต้องเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่าง จึงเป็นการประชุมแบบผสมผสาน โดยนอกจากจัดให้มีพิธีเปิดการประชุม ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้แล้ว มูลนิธิฯ ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศในการประสานให้สถานเอกอัครราชทูตไทยในกลุ่มประเทศอาเซียน และติมอร์-เลสเต จัดการประชุมแบบออนไลน์ในลักษณะคู่ขนานกับการประชุมที่กรุงเทพมหานคร โดยมีครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงศึกษาธิการ และคณะทูตไทยในประเทศอาเซียนและติมอร์-เลสเต เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทผ่านการถ่ายทอดสดด้วยแอพลิเคชั่นซูมทางออนไลน์ ในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมด้วยการลงทะเบียนออนไลน์ มากถึง 2,309 คน มีการชมทาง Facebook Live มากถึง 20,107 ครั้ง ทาง YouTube จำนวน 413 ครั้ง และทางเว็บไซต์ (www.pmca.or.th) 359 ครั้ง นับเป็นจำนวนผู้เข้าร่วมเรียนรู้มากกว่าการจัดประชุมแบบเดิมหลายเท่า

นอกจากนี้ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรียังได้จัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของคุณครูอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานของภาคเอกชน รัฐ และสถาบันอุดมศึกษา เช่น การศึกษาดูงานด้านอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาล และเทคโนโลยีชีวภาพ การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรเรื่องการใช้โปรแกรม Zoom Cloud Meeting การเสวนาทางไกล New Normal School และเตรียมความพร้อมให้กับสถานศึกษาเมื่อเปิดภาคเรียน การอบรม Digital Literacy Enrichment และการประชุมทางไกล “แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากครู PMCA ประเทศอาเซียนและติมอร์-เลสเต” เพื่อสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมทางการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นต้น

แม้ว่าในปี พ.ศ.2563 เป็นปีที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิต แต่กิจกรรมดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นว่า อุปสรรคใด ๆ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเรียนรู้และการพัฒนาของครูได้ หากเรามีความพยายามและความตั้งใจ

มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีรู้สึกยินดีที่เครือข่ายครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี มีบทบาทสำคัญในการสร้างการเรียนรู้ที่ดีให้กับลูกศิษย์ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านได้มีพลังแห่งแรงบันดาลใจ พร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีความสุขร่วมกันต่อไป

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

ทั้งนี้ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้ส่งสาส์นและการ์ดอวยพรและสวัสดีปีใหม่ 2564 แด่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีทั่วประเทศ อาเซียนและติมอร์-เลสเต