คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี นำโดย ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เดินทางเยือนประเทศบรูไนดารุสซาลามระหว่างวันที่ 1–3 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของมูลนิธิในการยกย่องและสนับสนุนครูผู้ยอดเยี่ยมใน 14 ประเทศทั่วเอเชีย
การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพบกับครูเดยาง ฮัจญะห์ ชารีฟาห์ บินติ โมฮัมหมัด ชาห์ลัน (Dayang Hajah Shahrifah Binti Haji Mohd Shahlan) ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประจำปี 2568 จากบรูไนดารุสซาลาม เยี่ยมคารวะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการของบรูไนดารุสซาลาม และเข้าพบ นางสาวบุศรา กาญจนาลัย เอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน และสื่อมวลชน เพื่อสร้างความร่วมมือในการสนับสนุนครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศบรูไนดารุสซาลาม และความร่วมมือการเข้าร่วมพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 6
ในวันที่ 2 มิถุนายน คณะผู้แทนมูลนิธิได้เยี่ยมชมโรงเรียน Pusat Tingkatan Enam Sengkurong (Sengkurong Sixth Form Centre) ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของคุณเดยาง ฮัจญะห์ ชารีฟาห์ บินตี้ ฮัจญะห์ โมฮัมหมัด ชาห์ลัน ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประจำปี 2025 จากบรูไนดารุสซาลาม โดยมีYM Awang Eddy Fazlin bin Haji Amdan รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน และ YM Dayang Tutty Hyrneeita binti Haji Abdul Latip คุณครูใหญ่ของโรงเรียนศูนย์มัธยมศึกษาตอนปลายสิงครูรง (Pusat Tingkatan Enam Sengkurong) และคณะผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และคณะนักเรียนของโรงเรียน พร้อมด้วย Mrs. Ratanawati Binti Haji Mohammad (PMCA 2015) Mrs. Lim Soh Ngo (PMCA 2017) Mrs.Noorliah Haji Aspar (PMCA 2019) Pengiran Haji Mohd Wahab Bin Pengiran Haji Abdullah (PMCA 2021) Mr. Mohamad Amir Irwan Bin Hajimoksin (PMCA 2023) และ Awang Haji Metusin Bin Haji Jais รักษาการเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายพิเศษ (ด้านวิชาชีพ) กรมการสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการบรูไน ให้การต้อนรับ
ในการนี้ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้รับฟังแนวทางการจัดการศึกษาของโรงเรียนจากผู้บริหารโรงเรียน การดำเนินงานของครูเดยาง ฮัจญะห์ ชารีฟาห์ บินตี้ ฮัจญะห์ โมฮัมหมัด ชาห์ลัน ในการจัดการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนานักเรียน เพื่อรับฟังข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการสอนของครู เรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานและแผนงานในอนาคต และสำรวจแนวทางที่มูลนิธิฯ สามารถสนับสนุนการทำงานต่อเนื่องเพิ่มเติม โดยได้เข้าร่วมสังเกตการณ์จัดการเรียนการสอนของคุณครูชารีฟาห์ในห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart classroom) โดยครูจัดการเรียนการสอนผ่านโครงงานนวัตกรรมเทคโนโลยี AI มีการวางผังห้องเรียนโดยมีพื้นที่นำเสนอหน้าห้องซึ่งจะมีกระดานที่ใช้สมาร์ทบอร์ดช่วยประกอบการนำเสนอ ด้านข้างวางโต๊ะ ฝั่งซ้ายและขวาจะเป็นทีมงานนักเรียนที่เตรียมนำเสนอผลงานแต่ละกลุ่ม และจัดให้มีผู้ชมเข้าร่วมรับฟังผลงานนักเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละกลุ่มจะใช้เวลานำเสนอ 5 นาที และมีการแลกเปลี่ยน Q&A อีก 5 นาที ซึ่งนักเรียนแต่ละกลุ่มได้นำเสนอเกี่ยวกับการเขียนโคด และใช้ AI ในการพัฒนาเครื่องมือการใช้เทคโนโลยีสำหรับในชีวิตประจำวัน อาทิ การสร้างระบบเครื่องให้น้ำต้นไม้ผ่านระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดความชุ่มชื้นของดิน การพัฒนาระบบการเปิด-ปิดไฟฟ้าอัตโนมัติผ่านระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของคน การพัฒนาระบบสัญญาเตือนกันลืมปิดประตูตู้เย็นที่เปิดค้างไว้ เพื่อป้องกันอาหารเน่าเสีย เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการนำเสนอผลงานนักเรียนในแต่ละกลุ่ม เปิดโอกาสให้มีการตั้งคำถาม อภิปราย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากคณะผู้ชม พร้อมกับให้มีการประเมินผลได้ผ่านผู้ชมและนักเรียนด้วยกัน โดยครูชารีฟาห์จะตั้งคำถามเพื่อให้นักเรียนที่นำเสนอผลงานตอบ เพื่อให้นักเรียนอธิบายในเรื่องที่ศึกษาเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้ง และสะท้อนแง่คิดร่วมก่อนสรุปภาพรวมกิจกรรมทั้งหมด โดยกิจกรรมนำเสนอดังกล่าวจัดให้หลังจากผ่านการศึกษาโครงงานนวัตกรรมแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ยังได้เยี่ยมชมห้องสมุดของโรงเรียน ซึ่งแบ่งเป็น 3 ชั้น ออกแบบให้เป็นห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โดยชั้นแรก (ชั้นล่าง) ทำให้ห้องสมุดเสมือนบ้าน มีมุมต่าง ๆ ที่กระตุ้นแรงบันดาลใจให้อยากเข้าห้องสมุด มีหนังสือหลากหลายใหม่ ๆ และมีการประชาสัมพันธ์หนังสือหรือจัดนิทรรศการหนังสือที่กำลังเป็นกระแสนิยม ชั้นที่สอง จัดห้องสมุดให้ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย และค้นคว้าแบบคู่หรือกลุ่ม มีหนังสือต่างประเทศให้ค้นคว้า ส่วนชั้น 3 เน้นการศึกษาโดยอิสระภายบุคคล เน้นความสงบส่งเสริมสมาธิ หนังสือเชิงวิชาการเฉพาะด้าน และยังมีห้องย่อยสำหรับการเรียนแบบพบประครูที่ปรึกษาโดยเฉพาะ ซึ่งในอาคารห้องสมุดนี้มีครูบรรณารักษ์คอยดูแลและจัดกิจกรรมต่อยอดร่วมกับรายวิชาต่าง ๆ ด้วย
คณะกรรมการฯ ยังได้เยี่ยมชมการนำเสนอผลงาน โครงงานศึกษาในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในลักษระต่าง ๆ อาทิ การเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม กิจกรรมโครงงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ชมละครการแสดงนิทานของนักเรียน เป็นต้น พร้อมกับร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับคณะครู นักเรียน และผู้บริหารสถานศึกษา
ครูซารีฟาห์ : เมื่อเทคโนโลยีไล่ล่าท้าฝัน
ครูเดยาง ฮัจญะห์ ชารีฟาห์ บินติ โมฮัมหมัด ชาห์ลัน (Dayang Hajah Shahrifah Binti Haji Mohd Shahlan) ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประจำปี 2568 จากบรูไนดารุสซาลาม เป็นครูผู้มากด้วยความรู้ความสามารถและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาในยุคดิจิทัล และเป็นผู้นำนวัตกรรม AI มาพัฒนาการเรียนรู้สำหรับนักเรียนของประเทศบรูไนดารุสซาลาม
ครูชาห์ริฟะห์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศจากมหาวิทยาลัย RMIT ประเทศออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. 2001 และต่อมาได้ศึกษาต่อจนสำเร็จปริญญาโทด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา จากมหาวิทยาลัยบรูไนดารุสซาลาม (UBD) ในปี ค.ศ. 2012 ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา (Education Officer) ที่โรงเรียน Pusat Tingkatan Enam Sengkurong โดยเริ่มต้นอาชีพครูมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 ตลอดเวลากว่าสองทศวรรษของการทำงาน เธอมีบทบาทที่หลากหลายและสำคัญ อาทิ เป็นหัวหน้าภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หัวหน้าทีมสนับสนุนการประเมินผลครู (TPA Support Team) ผู้ตรวจประเมินภายในระดับโรงเรียน (School-based Moderator) และหัวหน้าชมรมนวัตกรรมของโรงเรียน (Innovative Club)
ครูชาห์ริฟะห์ให้ความสำคัญกับการฝึกฝนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการอบรมในโครงการผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา (Education Specialist Program) และโครงการฝึกปฏิบัติพิเศษ (Program Penempatan Pakar) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีการศึกษา (EdTech Centre) โดยพยายามพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ ทั้งในด้านวิชาชีพ และเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูชาห์ริฟะห์เชื่อว่า การแสวงหาความรู้ในโลกเทคโนโลยีดิจิทัลนั้นไม่ยาก แต่การพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอในโลกแห่งพลวัตใหม่นี้ต่างหากที่จะมีความจำเป็น ครูจึงต้องมีสติ ใช้เทคโนโลยี “ให้รู้ ให้เป็น” เสมือนเพื่อนเพื่อช่วยในการสอน เท่าทันและรู้ทันกับ AI ที่กำลังมาและใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งความมุ่งมั่นในการพัฒนาการสอนและความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา ทำให้ชาห์ริฟะห์ได้รับการยอมรับในวงการศึกษา และเป็นแบบอย่างให้กับครูรุ่นใหม่ในการผสานเทคโนโลยีกับการเรียนรู้เพื่อเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับอนาคต
ปัจจุบัน ครูชาห์ริฟะห์ ได้มีส่วนสำคัญในการบุกเบิกการใช้ AI มาช่วยทั้งการพัฒนาการเรียนการสอนและการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน Pusat Tingkatan Enam Sengkurong (PTES) ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนรัฐบาลในประเทศบรูไน ที่เปิดสอนระดับเตรียมอุดมศึกษา (Sixth Form) สำหรับนักเรียนที่จบมัธยมปลายต้น (O-Level) เพื่อเตรียมตัวสอบ A-Level ซึ่งเป็นบันไดไปสู่การเข้ามหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ นักเรียนที่นี่มาจากทั่วบรูไน เพราะหลักสูตรที่ใช้เป็นมาตรฐาน Cambridge และได้รับการยอมรับในระดับสากล จุดเด่น ของ PTES คือการเรียนฟรีตามนโยบายรัฐ หลักสูตรเข้มข้น สอนโดยครูคุณภาพ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย โรงเรียนนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศ และสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ Wawasan Brunei 2035